#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
การประมูลขายข้าวสารค้างสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีอายุการเก็บรักษานานถึง 10 ปี กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของคุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ประเด็นนี้ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ปราศจากอคติหรือการคาดเดาที่อาจนำไปสู่การลดทอนคุณค่าของข้าวไทยความจำเป็นในการระบายข้าวค้างสต็อกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงถึงเจตนาของการประมูลข้าวในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามในการนำข้าวที่ตกค้างในโกดังออกประมูล เพื่อนำรายได้กลับคืนคลังและหลีกเลี่ยงปัญหาข้าวเน่าเสียจนไม่มีมูลค่า โดยการประมูลนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำข้าวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การส่งออกและการแปรรูป ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวที่ค้างสต็อกเหล่านี้นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนจากเจ้าของโกดังที่เก็บรักษาข้าวมาเป็นเวลานาน 10 ปีแล้วว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อระบายข้าวออกไป ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ และเจ้าของโกดังเองก็เสียโอกาสในการนำโกดังไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ดังนั้น การประมูลข้าวในครั้งนี้จึงถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูลหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์คือ คุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการอ้างว่าตรวจพบสารก่อมะเร็งในข้าวเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การประมูลซื้อขายข้าวในอดีต กระบวนการตรวจสอบสารปนเปื้อนในข้าวไม่เคยพบปัญหาปริมาณสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตราย และไม่มีข้อมูลว่าการเก็บข้าวเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดปัญหา หากมีการจัดเก็บที่ถูกต้องตามมาตรฐานในปัจจุบัน เทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพข้าวมีความทันสมัยมากขึ้น ก่อนที่จะมีการนำข้าวออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ข้าวจะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับปรุงคุณภาพจนได้มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) ตามเกณฑ์สากล จึงจะสามารถส่งออกและกระจายสู่ผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและสมาคมข้าวยังมีระบบการตรวจสอบสินค้าโดยบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ระดับมาตรฐานโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้ออีกด้วยในแง่ของสารก่อมะเร็งที่มีการกล
อ่านต่อ >27
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดรายการนายกฯ พบประชาชน ว่า เห็นทีมงานกำลังเช็คอยู่ พอดีต้องเดินทางไปต่างประเทศคืนวันที่ 15 พ.ค. กลับมาก็ประมาณปลายเดือน แต่อยู่อีก 3-4 วันก็ต้องไปเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงอีก คิดว่าต้นเดือนหน้าจะได้ แต่อาจจะพยายามฟิตให้ได้ประมาณปลายเดือน พ.ค.นี้สักหน เพราะเดินทางกลับจากต่างประเทศพอดี น่าจะมีเรื่องมาเล่าได้พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ทุเรียนเวียดนามตีแย่งตลาดทุเรียนไทยในประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เป็นการแข่งขันเสรี ทุกๆประเทศที่เป็นปลายทาง อย่างในเคสนี้เป็นประเทศจีน ก็มีความต้องการอยากได้สินค้าคือทุเรียน เพราะฉะนั้นคุณถาพและรสชาติก็มีความสำคัญตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องมีการแข่งขันพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายพันธุ์ เรื่องของการตรวจเช็คสภาพและคุณภาพของทุเรียน การขนส่งที่ประสิทธิภาพเพื่อจะไปถึงได้อย่างรวดเร็ว เราก็มั่นใจในศักยภาพของทุเรียนไทย
อ่านต่อ >20
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
14 พ.ค. 67 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 26 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากอดอาหารประท้วงในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอย่างไรก็ตาม รัฐมนตรียุติธรรม ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ก่อน โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมราชทัณฑ์และแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต และเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาหรือความคลางแคลงใจใดๆ ทั้งนี้ พันตำรวจเอกทวียังได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ "บุ้ง ทะลุวัง" เติบโตมาในครอบครัวนักกฎหมาย โดยมีพ่อเป็นผู้พิพากษาและพี่สาวเป็นทนายความ เธอเริ่มเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มทะลุวังตั้งแต่อายุยังน้อย แม้จะมีบทบาทเป็นเพียงผู้สนับสนุน แต่ก็ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ถึง 2 คดี จนถูกจำคุกและเริ่มอดอาหารประท้วงเมื่อศาลไม่ให้ประกันตัวการเสียชีวิตของบุ้งในวันนี้ นับเป็นวันที่ 94 ของการอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อความขัดแย้งทางการเมืองและความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ที่อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการเรียกร้องปฏิรูประบบในอนาคตภาพ : ทะลุวัง
อ่านต่อ >8
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลคือสินทรัพย์ล้ำค่า ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก จากเหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่เอกสาร OPD ของผู้ป่วยโรคตับอักเสบบีหลุดออกจากโรงพยาบาลในอุบลราชธานี ไปสู่การนำมาพับเป็นถุงใส่ขนมจำหน่าย เราจึงต้องหันมาตั้งคำถามว่า ข้อมูลส่วนตัวของเราจะปลอดภัยอยู่หรือไม่? ใครบ้างที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดการรั่วไหลขึ้น? กฎหมาย PDPA เกี่ยวข้องกับกรณีข้อมูลผู้ป่วยบนถุงโตเกียวอย่างไรข้อมูลผู้ป่วยที่ปรากฏบนถุงโตเกียว ซึ่งมีทั้งชื่อ ที่อยู่ ประวัติการรักษา ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตาม PDPA โรงพยาบาลซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูล ไม่สามารถนำข้อมูลผู้ป่วยไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการรักษา เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย ดังนั้นการนำเอกสารผู้ป่วยไปใช้เป็นถุงขนมโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPAแม้มิได้มีเจตนาเปิดเผยข้อมูล แต่การขาดมาตรการควบคุมที่รัดกุมจนทำให้ข้อมูลรั่วไหล ผู้ควบคุมข้อมูลก็ต้องรับผิดฐานประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลถือเป็น "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" (Data Controller) ซึ่งมีหน้าที่ต้องจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูลผู้ป่วย โรงพยาบาลจึงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล ไม่ว่าจะโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อโทษตาม พ.ร.บ. PDPA นั้นครอบคลุมทั้งความรับผิดทางแพ่ง ซึ่งต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และศาลมีอำนาจสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 2 เท่าของค่าสินไหมทดแทนที่แท้จริงย้อนรอย 'ข้อมูลหลุด'เหตุการณ์ที่ข้อมูลผู้ป่วยถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 เคยมีกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่า พบถุงใส่ขนมโตเกียวจากร้านค้าในจังหวัดชลบุรี มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย ทั้งชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชน ไปจนถึงประวัติการเข้ารับการรักษา ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ล่าสุดนอกจากนี้ ในอดีตก็เคยมีเรื่องราวของการนำข้อมูลผู้ป่วยไปพิมพ์บนซองจดหมายหรือถุงกระดาษ หรือมีการทิ้งเอกสารที่มีข
อ่านต่อ >9
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
การประมูลขายข้าวสารค้างสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีอายุการเก็บรักษานานถึง 10 ปี กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของคุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ประเด็นนี้ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ปราศจากอคติหรือการคาดเดาที่อาจนำไปสู่การลดทอนคุณค่าของข้าวไทยความจำเป็นในการระบายข้าวค้างสต็อกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงถึงเจตนาของการประมูลข้าวในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามในการนำข้าวที่ตกค้างในโกดังออกประมูล เพื่อนำรายได้กลับคืนคลังและหลีกเลี่ยงปัญหาข้าวเน่าเสียจนไม่มีมูลค่า โดยการประมูลนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำข้าวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การส่งออกและการแปรรูป ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวที่ค้างสต็อกเหล่านี้นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนจากเจ้าของโกดังที่เก็บรักษาข้าวมาเป็นเวลานาน 10 ปีแล้วว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อระบายข้าวออกไป ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ และเจ้าของโกดังเองก็เสียโอกาสในการนำโกดังไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ดังนั้น การประมูลข้าวในครั้งนี้จึงถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูลหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์คือ คุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการอ้างว่าตรวจพบสารก่อมะเร็งในข้าวเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การประมูลซื้อขายข้าวในอดีต กระบวนการตรวจสอบสารปนเปื้อนในข้าวไม่เคยพบปัญหาปริมาณสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตราย และไม่มีข้อมูลว่าการเก็บข้าวเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดปัญหา หากมีการจัดเก็บที่ถูกต้องตามมาตรฐานในปัจจุบัน เทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพข้าวมีความทันสมัยมากขึ้น ก่อนที่จะมีการนำข้าวออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ข้าวจะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับปรุงคุณภาพจนได้มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) ตามเกณฑ์สากล จึงจะสามารถส่งออกและกระจายสู่ผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและสมาคมข้าวยังมีระบบการตรวจสอบสินค้าโดยบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ระดับมาตรฐานโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้ออีกด้วยในแง่ของสารก่อมะเร็งที่มีการกล
อ่านต่อ >27
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดรายการนายกฯ พบประชาชน ว่า เห็นทีมงานกำลังเช็คอยู่ พอดีต้องเดินทางไปต่างประเทศคืนวันที่ 15 พ.ค. กลับมาก็ประมาณปลายเดือน แต่อยู่อีก 3-4 วันก็ต้องไปเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงอีก คิดว่าต้นเดือนหน้าจะได้ แต่อาจจะพยายามฟิตให้ได้ประมาณปลายเดือน พ.ค.นี้สักหน เพราะเดินทางกลับจากต่างประเทศพอดี น่าจะมีเรื่องมาเล่าได้พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ทุเรียนเวียดนามตีแย่งตลาดทุเรียนไทยในประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เป็นการแข่งขันเสรี ทุกๆประเทศที่เป็นปลายทาง อย่างในเคสนี้เป็นประเทศจีน ก็มีความต้องการอยากได้สินค้าคือทุเรียน เพราะฉะนั้นคุณถาพและรสชาติก็มีความสำคัญตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องมีการแข่งขันพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายพันธุ์ เรื่องของการตรวจเช็คสภาพและคุณภาพของทุเรียน การขนส่งที่ประสิทธิภาพเพื่อจะไปถึงได้อย่างรวดเร็ว เราก็มั่นใจในศักยภาพของทุเรียนไทย
อ่านต่อ >20
#ข่าวการเมือง #TNN ช่อง16
14 พ.ค. 67 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 26 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากอดอาหารประท้วงในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอย่างไรก็ตาม รัฐมนตรียุติธรรม ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ก่อน โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมราชทัณฑ์และแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต และเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาหรือความคลางแคลงใจใดๆ ทั้งนี้ พันตำรวจเอกทวียังได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ "บุ้ง ทะลุวัง" เติบโตมาในครอบครัวนักกฎหมาย โดยมีพ่อเป็นผู้พิพากษาและพี่สาวเป็นทนายความ เธอเริ่มเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มทะลุวังตั้งแต่อายุยังน้อย แม้จะมีบทบาทเป็นเพียงผู้สนับสนุน แต่ก็ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ถึง 2 คดี จนถูกจำคุกและเริ่มอดอาหารประท้วงเมื่อศาลไม่ให้ประกันตัวการเสียชีวิตของบุ้งในวันนี้ นับเป็นวันที่ 94 ของการอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อความขัดแย้งทางการเมืองและความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ที่อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการเรียกร้องปฏิรูประบบในอนาคตภาพ : ทะลุวัง
อ่านต่อ >8
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลคือสินทรัพย์ล้ำค่า ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก จากเหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่เอกสาร OPD ของผู้ป่วยโรคตับอักเสบบีหลุดออกจากโรงพยาบาลในอุบลราชธานี ไปสู่การนำมาพับเป็นถุงใส่ขนมจำหน่าย เราจึงต้องหันมาตั้งคำถามว่า ข้อมูลส่วนตัวของเราจะปลอดภัยอยู่หรือไม่? ใครบ้างที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดการรั่วไหลขึ้น? กฎหมาย PDPA เกี่ยวข้องกับกรณีข้อมูลผู้ป่วยบนถุงโตเกียวอย่างไรข้อมูลผู้ป่วยที่ปรากฏบนถุงโตเกียว ซึ่งมีทั้งชื่อ ที่อยู่ ประวัติการรักษา ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตาม PDPA โรงพยาบาลซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูล ไม่สามารถนำข้อมูลผู้ป่วยไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการรักษา เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย ดังนั้นการนำเอกสารผู้ป่วยไปใช้เป็นถุงขนมโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPAแม้มิได้มีเจตนาเปิดเผยข้อมูล แต่การขาดมาตรการควบคุมที่รัดกุมจนทำให้ข้อมูลรั่วไหล ผู้ควบคุมข้อมูลก็ต้องรับผิดฐานประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลถือเป็น "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" (Data Controller) ซึ่งมีหน้าที่ต้องจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูลผู้ป่วย โรงพยาบาลจึงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล ไม่ว่าจะโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อโทษตาม พ.ร.บ. PDPA นั้นครอบคลุมทั้งความรับผิดทางแพ่ง ซึ่งต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และศาลมีอำนาจสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 2 เท่าของค่าสินไหมทดแทนที่แท้จริงย้อนรอย 'ข้อมูลหลุด'เหตุการณ์ที่ข้อมูลผู้ป่วยถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 เคยมีกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่า พบถุงใส่ขนมโตเกียวจากร้านค้าในจังหวัดชลบุรี มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย ทั้งชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชน ไปจนถึงประวัติการเข้ารับการรักษา ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ล่าสุดนอกจากนี้ ในอดีตก็เคยมีเรื่องราวของการนำข้อมูลผู้ป่วยไปพิมพ์บนซองจดหมายหรือถุงกระดาษ หรือมีการทิ้งเอกสารที่มีข
อ่านต่อ >9
#TNN เจาะข่าว #TNN ช่อง16
การประมูลขายข้าวสารค้างสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีอายุการเก็บรักษานานถึง 10 ปี กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของคุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ประเด็นนี้ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ปราศจากอคติหรือการคาดเดาที่อาจนำไปสู่การลดทอนคุณค่าของข้าวไทยความจำเป็นในการระบายข้าวค้างสต็อกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงถึงเจตนาของการประมูลข้าวในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามในการนำข้าวที่ตกค้างในโกดังออกประมูล เพื่อนำรายได้กลับคืนคลังและหลีกเลี่ยงปัญหาข้าวเน่าเสียจนไม่มีมูลค่า โดยการประมูลนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนนำข้าวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การส่งออกและการแปรรูป ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวที่ค้างสต็อกเหล่านี้นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนจากเจ้าของโกดังที่เก็บรักษาข้าวมาเป็นเวลานาน 10 ปีแล้วว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อระบายข้าวออกไป ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ และเจ้าของโกดังเองก็เสียโอกาสในการนำโกดังไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ดังนั้น การประมูลข้าวในครั้งนี้จึงถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูลหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์คือ คุณภาพและความปลอดภัยของข้าวที่จะนำออกประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการอ้างว่าตรวจพบสารก่อมะเร็งในข้าวเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การประมูลซื้อขายข้าวในอดีต กระบวนการตรวจสอบสารปนเปื้อนในข้าวไม่เคยพบปัญหาปริมาณสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตราย และไม่มีข้อมูลว่าการเก็บข้าวเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดปัญหา หากมีการจัดเก็บที่ถูกต้องตามมาตรฐานในปัจจุบัน เทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพข้าวมีความทันสมัยมากขึ้น ก่อนที่จะมีการนำข้าวออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ข้าวจะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับปรุงคุณภาพจนได้มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) ตามเกณฑ์สากล จึงจะสามารถส่งออกและกระจายสู่ผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและสมาคมข้าวยังมีระบบการตรวจสอบสินค้าโดยบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ระดับมาตรฐานโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้ออีกด้วยในแง่ของสารก่อมะเร็งที่มีการกล
อ่านต่อ >27